คุยกับครูใหญ่
View latest entries >> เมื่อฉันสอบเข้าเตรียมอุดมฯ
จากเด็กที่ซ้ำชั้นตอนอนุบาล ให้ยายทำการบ้านให้ กลายมาเป็นที่ 1 ตลอด ตั้งแต่ประถมจนมหาวิทยาลัย
รู้จักกันหน่อย
ชื่อหมูค่ะ โดยมากน้องๆก็เรียกพี่หมู ครูหมู อาจารย์หมูแล้วแต่แต่ละคนจะชอบชื่อไหน (^_^)
เริ่มสอนพิเศษตั้งแต่เมื่อไร?
เริ่มสอนจริงจังตั้งแต่อยู่ม.3ค่ะ ตอนนั้นสอนให้น้องข้างๆบ้านสอนเลข แล้วก็สอนมาเรื่อยๆจนจบมหาวิทยาลัยค่ะ สอนมาทุกระดับชั้นตั้งแต่ ป.1ถึงม.6 สอนทุกวิชาที่ตัวเองเคยเรียนมา สอนเป็นอาชีพจนอยู่มหาวิทยาลัยไม่เคยต้องขอเงินคุณพ่อคุณแม่เลย
แนวทางการสอนเป็นอย่างไร?
จริงๆชอบสอนเด็กค่ะ เด็กเล็กถึงม.ต้น เพราะโดยส่วนตัวมองว่าเด็กสอนยากกว่า ท้าทายกว่า เพราะว่าสมาธิเค้าจะสั้นไม่เหมือนเด็กโต ต้องมีเทคนิคในการสอน การทำความเข้าใจตัวเด็กเพื่อที่จะทำให้เค้าสนใจฟังสิ่งที่เราพูดและจดจำเอาไปใช้ได้ อีกอย่างที่ชอบสอนเด็กเพราะมองว่าการที่เด็กมีพื้นฐานดีนี่ค่อนข้างสำคัญ พอเรียนสูงขึ้นไปเรื่อยๆไม่ว่าวิชาไหน ถ้าเรามีความรู้พื้นฐานดีจะเรียนได้เข้าใจง่าย เรียนได้เร็ว และพัฒนาได้ดีกว่าคนที่พื้นฐานไม่ดี เราต้องถ่ายทอดความรู้ และปลูกฝังแนวความคิดนี้ลงในตัวน้องๆตั้งแต่ยังเล็ก โตขึ้นมาก็เรียนสบายละ ถ้าเทียบกับเด็กที่มีพื้นฐานไม่ดีมาก่อน พอขึ้นม.ปลายมาเร่งฟิตสุดท้ายก็ไม่ทันเท่าไร
ทำไมถึงเปิด www.tutorforkids.net?
เกิดจากความชอบในการสอนหนังสือและมองเห็นว่ากลุ่มเด็กเล็กนั้นมีความน่าสนใจ เนื่องจากทางผู้สอนต้องมีเทคนิคในการสอนค่อนข้างมากเพราะเด็กเล็กสมาธิจะค่อนข้างสั้นกว่าเด็กโต กอปรกับมีความเชื่อส่วนตัวว่าพื้นฐานการศึกษาที่ดีควรปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็ก อีกทั้งเห็นว่าคุณครูเก่งๆส่วนมากจะให้ความสนใจกับเด็กมัธยมปลายมากกว่าเลย กลายเป็นว่ากลุ่มเด็กเล็กจะยังไม่ได้รับการเรียนการสอนที่เข้มข้มทั้งเนื้อหา สาระ ความบันเทิงมากนัก (^_^) ดังนั้นจึงรวบรวมเพื่อนๆที่มีประสบการณ์การสอน และผลการเรียนดีมาเปิดสอนตรงนี้ค่ะ โดยเน้นการสอนตัวต่อตัวหรือกลุ่มเล้กตามบ้าน แต่เราก็ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจใหญ่โต เพราะเราต้องการสอนน้องๆให้ประสบความสำเร็จมากกว่าการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จำนวนคุณครูจึงจำกัดเฉพาะในแวดวงเพื่อนและคนรู้จักที่ครูเห็นฝีมือกันมา ไม่มีการรับสมัครติวเตอร์ทั่วไปอย่างที่อื่นค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าโทรมาแล้วติวเตอร์ไม่ว่างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เรียนดีมาตั้งแต่เด็ก?
เปล่าค่ะ เริ่มจากเป็นเด็กเกเรมาก่อน ไม่ชอบไปโรงเรียน ไม่ชอบทำการบ้าน ให้คุณยายทำให้ตลอด ไปเรียนแค่วันจันทร์กับอังคาร นอกนั้นถ้าคิดมุขได้จะแอบป่วยการเมืองผลคือสอบตกซ้ำชั้นตอนอนุบาล1ค่ะ แล้วก็เรียนง่อนแง่นมาจนอนุบาล3 ห้องมี40คน สอบได้ที่30กว่าๆ
จุดเปลี่ยนมาเป็นเด็กเรียนดี?
ตอนขึ้นป.1ค่ะ อยากได้ตุ๊กตาบาร์บี้ คุณยายก็ติดสินบนว่าถ้าสอบได้ไม่เกินที่3จะซื้อให้ หลังจากนั้นคิดภาพสิคะ เด็กป.1อ่านหนังสือจนดึกทุกคืน คิดแล้วขำตัวเองมาก แต่สอบได้ที่1เลยนะ สมัยนั้นมีสอบทั้งหมด 6ครั้งในสองเทอม ได้ที่ 1ทุกเทอม (ได้บาร์บี้สมใจด้วยในคราวนั้น) พอเรียนได้ดีครูก็ชม แม่ก็ชมครูก็ภูมิใจ ก็พยายามรักษาผลการเรียนมาตลอด ตั้งแต่เล็กจนโตด้วยเหตุผลอื่นๆ (ไม่มีใครมาติดสินบนครูแล้วนะคะ ครั้งเดียวจริงๆ)
คิดว่าอะไรทำให้เรากลายเป็นคนเรียนดีตั้งแต่เล็กจนโต?
มีสี่ปัจจัยค่ะ
- ปัจจัยแรกคือความขยันของตัวเอง ตอนเด็กๆขยันมากพอโตขยันน้อยลง ทำได้เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะปัจจัยที่สองค่ะ
- ปัจจัยที่สองคือพื้นฐานที่ดี เนื่องจากครูขยันตั้งแต่เด็ก เจอคุณครูที่ดีด้วยมาตลอดทั้งคุณครูที่โรงเรียน คุณครูที่เรียนพิเศษ ครูมีพื้นฐานการเรียนทุกวิชาดีมาก การเลื่อนชั้นเรียน เรียนเรื่องใหม่ๆมันยากขึ้นก็จริงแต่ครูมีทุนเก่า มีบุญเก่าเยอะ เลยเข้าใจเร็ว ต่อติด มีความคิดพลิกแพลงได้เร็ว คิดว่าเพราะสมองครูถูกฝึกถูกใช้มาตั้งแต่เด็ก ด้านที่เราใช้บ่อยๆมันจะพัฒนาเร็วและใช้การได้ดี เชื่ออย่างนั้น
- ปัจจัยที่สามคือสภาพแวดล้อมดีค่ะ พี่สาวเป็นเด็กเรียนครูอยากเรียนตาม และเจอเพื่อน เพื่อนก็เป็นเด็กเรียน เราก็อยู่ในสังคมที่เรียนหนังสือมาตลอดบ้าง อันที่จริงพ่อกับแม่ใจดีมาก ไม่เคยบังคับให้เรียนหนังสือเลย ตามใจเรามาตลอด ไม่เคี่ยวเข็ญ เราเรียนของเราเอง พี่สาวก็เรียน เพื่อนก็เรียน แข่งกันเรียนอย่างสนุกสนาน (^o^)
- ปัจจัยที่สี่คือความคิดทัศนคติของเราค่ะ เราชอบเรียน ชอบรู้ ฝันสูงแต่เด็ก ตั้งเป้าหมายไว้สูงตลอด ต้องเข้าเตรียมอุดมนะ ต้องเข้าจุฬาฯนะ ทุกคนก็อยากเรียนดีๆ อยากประสบความสำเร็จค่ะ ไม่มีใครอยากเอ็นท์ไม่ติดหรือได้เกรดไม่ดีหรอกค่ะ แต่ฝันอย่างเดียวมันไม่ได้มันต้องประกอบด้วยปัจจัยอื่นๆที่พูดเมื่อกี้ด้วย
ด้วยประสบการณ์ที่มีจะช่วยน้องๆที่มาเรียนกับเราได้อย่างไร?
สิ่งที่ครูเน้นเลยนะคะก็คือ
1. สร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียน เราต้องทำความเข้าใจว่าเด็กแต่ละคนเป็นแบบไหน ค่อยๆทำให้เค้าเห็นคุณค่าของการเรียนหนังสือค่ะ อย่าบอกเพียงแต่ว่าเรียนแล้วจะได้เก่ง เรียนแล้วจะได้สอบได้ ทำงานมีเงินเยอะ จากประสบการณ์เด็กไม่เข้าใจเหตุผลเหล่านี้ที่ผู้ปกครองพูดจนกว่าจะโตเข้ามหาวิทยาลัยหรอกค่ะ บางคนนี่จนกว่าจะมาหางานทำด้วยซ้ำ
ครูอยากให้น้องๆเรียนแล้วสนุก พยายามหากิจกรรมที่จะมาช่วยให้น้องๆได้ใช้ความรู้ที่มีมาลองทำ ให้ทำแล้วเพลิน ทำได้แล้วภาคภูมิใจ ฝึกให้เค้าคิดสร้างสรรค์ คิดวางแผน จะได้ไม่น่าเบื่อหรือเครียด เค้าจะมีทัศนคติต่อการเรียนที่ดีขึ้นค่ะ
2. สร้างพื้นฐานที่ดีในการเรียนหนังสือด้วยการให้วิชาการที่ถูกต้อง เน้นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการต่อยอดในระดับที่สูงขึ้นไปกับเค้าทั้งในแง่ของการเรียน หรือการสอบเข้า เพื่อที่เค้าจะได้สามารถปรับตัวในการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้อย่างไม่ยากลำบากค่ะ
3. แบ่งปันเคล็ดลับ ครูมีเคล็ดลับในการเรียนมากมายที่จะทำให้เรียนเข้าใจ จำได้ ไม่เครียดมาแชร์ให้กับน้องๆค่ะ มีทั้งเทคนิคการอ่านหนังสือสอบวิชาต่างๆ การทำข้อสอบทั้งแบบปรนัย อัตนัย การช่วยจำเรื่องยากๆ มากมายค่ะ
เรียนดีแล้วมันดียังไง?
ผู้ใหญ่มักจะบอกว่า เรียนดีแล้วจะได้งานดีๆมีเงินเยอะๆเป็นเจ้าคนนายคน แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนมากมายที่ประสบความสำเร็จโดยที่เรียนหนังสือมาน้อยมากหรือเป็นคนเรียนไม่ดีมาก่อน และก็มีคนที่เรียนดีแต่ไม่ประสบความสำเร็จเยอะแยะ
สิ่งที่ครูต้องการจะบอกว่าการเรียนดีไม่ได้แสดงให้เห็นเฉพาะเกรดที่เราได้รับ หรือใบปริญญาของเราหรอกนะคะ เพราะเพียงแค่นั้นไม่ทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต แต่การเรียนดีสำหรับครูคือการมีความรู้และการมีความรู้ทำให้เราคิดเป็น เราสามารถที่จัดการกับชีวิตของเราได้ง่ายขึ้นถ้าเราคิดเป็น คิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา คิดตัดสินใจ การเรียนหนังสือสอนและฝึกเรื่องเหล่านี้ให้แก่เราค่ะ ทักษะในการคิดทั้งหมดนี้เราต้องใช้ไปตลอดชีวิตเลยนะคะ และเป็นปัจจัยที่สำคัญมากกว่าเกรดหรือใบปริญญาที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ แล้วครูก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะสอนเพื่อให้เด็กของครูมีความรู้(และความคิด) มากที่สุดค่ะ สัญญา …..
สุดท้ายขอฝาก
ยังไงก็ลองติดต่อกันเข้ามาดูค่ะ ลองให้น้องๆเรียนดู ไม่เรียนไม่ว่ากัน หรือจะเข้ามาอ่านประสบการณ์ของครูก็ได้ที่ครูจะเขียนแง่คิด ประสบการณ์ต่างๆในชีวิตเกี่ยวกับการเรียนมาแบ่งปันให้น้องๆหรือคุณพ่อคุณแม่อ่านดูกัน หวังว่าความรู้และประสบการณ์ของครูจะช่วยเป็นส่วนหนึ่งให้น้องๆประสบความสำเร็จทั้งการเรียนและชีวิตในอนาคตนะคะ